settlement
(จากภาพการตั้งถิ่นฐานในกรุงโรม ยุคก่อนประวัติศาสตร์) |
จากภาพ คำว่า settlement นั้นจะหมายถึง การบุกเบิกครอบครองพื้นที่ ส่วนใดส่วนนึงบนโลกที่ไม่มีผู้อยู่อาศัยมาก่อน รูปแบบเเละขนาดของถิ่นฐานมีความซับซ้อนสัมพันธ์เเละเเตกต่างกันออกไป
การตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ความหมายเเละขอบเขต
-มนุษย์มีฐานะเป็นบุคคล
-สังคมคือระบบปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์
-โครงสร้างคือสิ่งก่อสร้างทุกรูปแบบ เเละ โครงข่ายคือระบบหนทางเเละการคมนาคมติดต่อ
-ในขอบเขตที่เเคบลงมา เเหล่งการตั้งถิ่นฐานเป็นเเหล่งที่ประชากรอาศัยอยู่รวมกันในการดำเนินชีวิต
-เมืองขนาดใหญ่ขึ้น จะมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
-เเหล่งตั้งถิ่นฐานเเต่ละเเหล่งเสมือนระบบหนึ่งๆ จะค่อยๆใหญ่โต เเละจะซับซ้อนยิ่งขึ้นตามกาลเวลา
จะดำรงอยู่ได้เมื่อ
1.ตอบสนองความต้องการของมนุษย์
2.รักษาสมดุลกับสิ่งเเวดล้อมเเละทรัพยากร
3.มีความเสมอภาคทางสังคม
4.มนุษย์สามารถดำรงอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรีเเห่งการเป็นมนุษย์
ตัวอย่าง ภาพการตั้งถิ่นฐาน |
ตัวอย่าง ภาพการตั้งถิ่นฐาน |
Settlement hierarchy
Settlement hierarchy คือ ลำดับชั้นของการตั้งถิ่นฐาน เป็นวิธีการจัดลำดับชั้นของการตั้งถิ่นฐานเข้าไปอยู่ในพื้นที่บนพื้นฐานของประชากรหรือเงื่อนไขหรือกฏเกณฑ์ต่างๆ
Urbanization
ภาพจาก http://www.gmlive.com/ |
Urbanization การกลายเป็นเมือง คือ การเปลี่ยนแปลงของประชากรจากเขตชนบทสู่เขตเมือง
จากภาพ : เเผนที่เเสดงการกลายเป็นเมืองของทั่วโลก คิดเป็นร้อยละของการกลายเป็นเมืองในแต่ละประเทศ ในปี 2012 (จาก http://en.wikipedia.org/wiki/Urbanization) |
จากปรากฎการทางสังคมในปัจจุบันจะพบว่า
ความเจริญก้าวหน้าของชุมชนเมืองทำให้เกิดการอพยพของประชากรในเขตชนบทเข้ามาในเขตเมืองมากขึ้น
เมื่อในเขตเมืองมีความหนาแน่นมากขึ้น เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม
ความเสื่อมโทรมในตัวเมืองมีมากขึ้น การขยายตัวของเมืองก็จะเกิดขึ้นตามมา
ทำให้มีการกระจายตัวของประชากรเมือง (Decentralization) เข้าครอบครอง (Dominate) พื้นที่ใหม่ที่อยู่บริเวณรอบ ๆ เมือง
พื้นที่ที่รองรับการขยายตัวของเมืองก็คือ ชานเมือง (Suburb)
ก่อนที่ชานเมืองจะกลายมาเป็นเมือง
(Urbanization) พื้นที่ของชานเมืองจะมีลักษณะเป็นที่โล่งว่างและมีประชากรอาศัยอยู่อย่างเบาบาง
การที่ชานเมืองเป็นบริเวณมีสามารถรองรับการกระจายตัวของเมืองได้เป็นอย่างดีนั้น
มีปัจจัยสนับสนุนดังนี้ (ไพบูลย์ ช่างเรียน 2516 : 250-251)
1.ปัจจัยด้านการคมนาคม (Mass communication) การสร้างเส้นทางคมนาคมติดต่อระหว่างชานเมืองกับตัวเมือง
ทำให้เกิดความสะดวกรวดเร็วในการเคลื่อนไหว
เมื่อมีการเคลื่อนไหวได้รวดเร็วและได้มากณ ที่นั้นก็จะมีความเจริญเกิดขึ้น
ผู้คนอพยพไปอยู่มากขึ้น
2.ปัจจัยด้านที่อยู่อาศัย
การออกไปจัดทำที่ดินหรือที่อยู่อาศัยบริเวณชานเมืองนั้น
ทำให้สามารถมีบริเวณบ้านกว้างขวาง
ราคาพอสมควรพอที่จะทำให้ผู้มีรายได้ปานกลางหาซื้อได้
3.ปัจจัยด้านที่ตั้ง (Location) การสร้างสถานที่ราชการของรัฐบาล
มีส่วนช่วยให้เกิดชุมชนขึ้นอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้เพราะประชาชนเห็นว่าเมือมีสถานที่ราชการของรัฐบาลเกิดขึ้นแล้ว
การบริการสาธารณต่าง ๆ เช่น ไฟฟ้า น้ำประปา
ถนนหนทางและความปลอดภัยก็จะติดตามมาด้วยรวมทั้งสืบเนื่องมาจากนโยบายของรัฐบาลที่สนับสนุนให้มีการสร้างโรงงานอุตสาหกรรมขึ้นในเขตชานเมือง
เมื่อเกิดย่านอุตสาหกรรมขึ้นแล้ว ก็จำเป็นจะต้องมีคนงาน
จึงทำให้เกิดแหล่งที่อยู่อาศัยบริเวณเขตอุตสาหกรรมเพื่อความสะดวกในการทำงาน
4.ปัจจัยด้านการลงทุนของนักจัดสรรที่ดิน
เมื่อบริเวณรอบ ๆ เมืองมีระบบคมนาคมที่สะดวกรวดเร็วในการเคลื่อนไหว
ทำให้มีนักเก็งกำไรในการจัดสรรที่ดินเกิดขึ้น
โดยทำการจัดสรรที่ดินและจัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น ไฟฟ้า น้ำประปา ถนน
เพื่อเป็นการจูงใจความต้องการของประชาชนที่อยู่อาศัย
5.ปัจจัยด้านบทบาทของการเดินทางไปกลับ (Commuter) โดยอาศัยผลจากความสะดวกรวดเร็วของการคมนาคมเข้ามาทำงานและอาศัยบริการต่าง
ๆ
ในตัวเมืองกลับออกไปในตอนเย็นซึ่งก่อให้เกิดการอพยพของประชากรที่อยู่อาศัยในเมืองออกไปอยู่ในเขตชานเมืองมากขึ้น
(http://www.dpt.go.th/ITCitdb/txt/pop/urban3.htm)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น